กดติดตามการเที่ยวของเรา


ไป"เกาะล้าน"กันไหม พร้อมอัปเดตการเดินทางแบบใหม่ ว่าแล้วก็ลุยยยยย!

สวัสดีจ้าา รีวิวนี้เป็นรีวิวกระทู้แรกของเรา หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยนะคะ กะพริบตา
ต้องบอกก่อนเลยว่า พวกเราเป็นเด็กจากถิ่นด้ามขวาน เลยอาจไม่ทราบละเอียดเท่าไหร่

การเดินทางของพวกเราคือ กรุงเทพ - เกาะล้าน - สนามบินอู่ตะเภา

ทริปนี้เริ่มแรกก็มีปัญหาซะแล้ว แถมเป็นปัญหาสำคัญคือ การเดินทาง เลยอยากจะมาแชร์การเดินทางไปเกาะล้าน
เพราะเราก็เป็นหนึ่งในคนที่อ่านรีวิว แล้วพลาด ไม่ได้เช็คปีพ.ศ. หรือ ดูให้ละเอียด ทำให้ยังหลงผิด คิดว่า
การไปเกาะล้าน ยังสามารถขึ้นรถตู้จาก อนุสาวรีย์ชัยฯ ได้ ทำให้เรากับแฟนเกิดความคิดว่า
อยากมาแชร์ อัปเดตการเดินทางสักหน่อย อาจแถมด้วยรายละเอียดอื่นๆบ้าง
เผื่อจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่อยากจะไปเกาะล้านกันค่ะ อมยิ้ม36

คือเรายังคงเข้าข้างตัวเองว่า คงจะยังมีรถตู้หลงเหลือแถวอนุสาวรีย์ชัยฯให้ไปเกาะล้านบ้างแหละ
คืนก่อนออกเดินทาง เลยลองเดินไปถามพี่วินมอเตอร์ไซด์หน้าเซนจูรี่ว่า ยังมีรถตู้ไปเกาะล้านอีกไหม?
ปรากฏว่า ไม่มีแล้ว ต้องไปขึ้นรถตู้ที่ "หมอชิต" ไม่ก็ "เอกมัย"
ก็เป็นไปตามกระทู้ที่เขาบอก แต่เรากับแฟนเป็นเด็กต่างจังหวัด ก็เลยงงๆมึนๆ เลยเลือกไปขึ้นที่ "เอกมัย"

รุ่งเช้า เวลา 7.00 น. โดยประมาณ พวกเรามุ่งหน้าไปยัง BTS อนุสาวรีย์ชัยฯ เพื่อจะไปลงที่ "เอกมัย"
จากนั้นก็เดินเท้าไปอีกหน่อย เพื่อไปซื้อตั๋วรถตู้ที่ "ขนส่งเอกมัย"

โชคดีมากกกก!!! ตอนนั้นพวกเราไปถึงขนส่งเอกมัย ประมาณ 7.50 น. มีรถตู้กำลังจะออกพอดี เลยไม่ต้องเสียเวลารอ
ค่าตั๋วรถตู้คนละ 150 บาท เราไม่ทันได้ดูว่าของบริษัทอะไร รีบมากจริงๆ
08.01 น. ล้อก็หมุน ออกจากขนส่งเอกมัย มุ่งหน้าไปยัง ท่าเรือแหลมบาลีฮาย

ถึงแล้ว ท่าเรือแหลมบาลีฮาย ถึงประมาณ 11.20 น. ใช้เวลาเดินทางไป 3 ชั่วโมง 20 นาที โดยประมาณ


แล้วก็โชคดีเป็นครั้งที่สองเนื่องจาก เราเห็นตารางเรือออกแล้ว คิดว่าต้องรอรอบต่อไป
แต่ได้ยินเขาเรียกว่า ลงเรือไปเกาะล้าน ให้ไวๆ เรือจะออกแล้ว เพราะมีทัวร์จีนมาลง เลยรีบพุ่งตรงไปลงเรือ ไม่ทันได้ชักภาพ
ลงเรือตอน 11.30 น. ราคาตั๋ว 30 บาท ไม่ต้องซื้อ แค่จ่ายเงินตรงทางลงเรือ ก็ลงเรือได้เล้ยยยยยย
(จริงๆอันนี้เป็นตอนลงเรือกลับไปพัทยา แต่อยากเอารูปเรือมาให้เห็นกัน)

ช่วงที่ไปครึ่มฟ้าครึ่มฝน ลมเลยแรงหน่อยๆ ใครที่เมาเรือเมาคลื่นก็อย่าลืมกินยาไว้ด้วยนะจ๊ะ โชคยังดีที่ฝนไม่ตก
และในที่สุดก็เดินทางมาถึงท่าเรือหน้าบ้าน@เกาะล้านในเวลา 12.10 น. ใช้เวลา 40 นาทีโดยประมาณ

มาถึงเราก็หิวมาก เลยรีบตรงไปหาร้านข้าว และเราก็เลือกร้าน ครัวชลิตา จะมีสองร้าน เราเห็นอีกร้านคนเยอะ เลยเลี่ยงไปอีกร้าน
พวกเราสั่ง ข้าวผัดเบคอน(ไม่ใส่ผัก) กะเพราหมูราดข้าว  ต้มยำทะเลน้ำข้น  ทั้งหมดนี้ราคา 350 บาท
ประทับใจต้มยำสุดๆ เข้มข้น อร่อยมาก ชอบมาก เนื้อก็ได้เยอะ เรียกได้ว่า "ได้แรงอก" (ภาษาใต้ แปลว่า มันสุดๆ ได้ใจ สะใจ)

เมื่ออิ่มท้อง ก็อยากจะไปเก็บสัมภารก เอ้ย สัมภาระ กันสักหน่อย เลยโทรหาที่พักให้ส่งรถมารับ
พวกเราเลือกพักที่ เดอะ คาสเทลโล รีสอร์ท เนื่องจากเห็นรีวิวกันหลายกระทู้มาก
พวกเราจองผ่าน agoda (แนะนำวาให้ดูทั้ง booking และ agoda เพราะมีโปรโมชั่นบางทีจะถูก บางทีจะแพง)
และรอไม่นาน รถทางรีสอร์ทก็มารับ หน้าตาเป็นงี้

ทางไปรีสอร์ทค่อนข้างจะลำบากนิดหน่อย ตอนแรกก็ตกใจ แต่พอถึงรีสอร์ทก็อภัยให้กับทางเข้า
แล้วก็มาถึงรีสอร์ท โชคดีอีกครั้งที่ห้องเราว่างแล้ว สามารถเข้าพักได้เลย พวกเราพักห้องแบบ standard double bed
รีสอร์ทสบายมาก บรรยากาศดี พนักงานดูแลดี พูดจาดี มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะ และห้องพักเป็นไปตามรูปใน agoda เลย

ทางรีสอร์ทมีพื้นที่ให้ปิ้งย่างกันเองได้ด้วยนะ มีสองส่วนให้ปิ้งย่างกันท่ามกลางบรรยากาศในสวน
และหน้ารีสอร์ทก็มีบริการเช่ารถมอเตอร์ไซด์ ราคาเช่ามอเตอร์ไซด์อยู่ที่ 300 บาท ใช้บัตรประชาชนประกอบกับการเช่า
มีน้ำมันให้เต็มถัง และควรดูรอยถลอกของรถด้วย ว่ารอยที่เราได้รับก่อนจะขี่มันมีตรงไหนบ้าง ป้องกันการเกิดปัญหาภายหลัง
(เราแนะนำว่า เช่าที่หน้าท่าเรือคงจะดีกว่า เพราะจะได้แวะเที่ยวนั่งร้านชิลล์ๆ ก่อนจะกลับ ส่วนใหญ่รถต้องคืนก่อน 12.00 น. และที่พักส่วนใหญ่ก็เช่นกัน
ถ้าเราเช่ารถที่หน้าท่าเรือเลย เราก็จะสามารถเช็คเอาท์แล้วไปขับรถนั่งชิลล์ได้ ถ้ารถโรงแรมมาส่ง ร้านนั่งชิลล์กับท่าเรือค่อนข้างไกลกัน)


ทางรีสอร์ทให้แผนที่และโบรชัวร์มา
โบรชัวร์สำหรับใครที่สนใจไปตกหมึก(กลางคืน) ดำน้ำ ชมปะการัง(กลางวัน และถ้าไปตอนเช้า ก็สามารถกลับาเช็คเอาท์ทันเวลา)

เมื่อเปลี่ยนชุดเสร็จ พวกเราก็ไปตะลอนถ่ายรูปกัน แดดร้อนมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ส่วนวิวแต่ละหาดก็จะคล้ายๆกัน ต่างกันตรงบรรยากาศ ความคึกครื้น

พวกเราไปเก็บกันไม่ครบทุกหาด เนื่องจากร้อนมากและเหนื่อยจากการเดินทาง
และไปได้สองหาด ดูเหมือนฝนจะตก (รูปแรก) เลยรีบขี่รถกลับรีสอร์ท


กลับมารีสอร์ทก็เผลอหลับยาว ตื่นมาอีกทีก็หนึ่งทุ่มแล้ว เลยไปหาร้านกินข้าวกัน
แฟนก็อยากจะโรแมนติกหน่อยๆ เขาไปเจอรีวิวร้านมา ว่าบรรยากาศดี โรแมนติกมากๆ
ก็เลยมุ่งหน้าไปยัง "ครัวเฉลียงลม" และโชคดี(อีกแล้ว)ที่ยังมีที่ให้พวกเรา

(ติดใครมาก็ขอโทษด้วยนะคะ อยากให้เห็นบรรยากาศจริงๆ)
อ๊ะๆ เขาเช็คบิลแล้ว อันนี้ภาพแบบเปลือยๆ แต่ไม่โป๊! ผ่ามพาม
ดินเนอร์ใต้แสงเทียนงี้ คริคริ พวกเราสั่ง

                                 ต้มยำทะเลน้ำข้น(อีกแล้ว) ปลาหมึกผัดไข่เค็ม ทอดมันกุ้ง และข้าวผัดไม่ใส่ผัก(2จาน) โค้กขวดใหญ่
                                  >>>>>>>>ทั้งหมดนี้ 710 บาท<<<<<<<<<<
ก่อนกลับที่พักก็คิดกันว่าจะแวะนั่งร้านชิลล์ๆ แต่เหมือนฝนจะตกและเหนื่อย เลยตัดสินใจซื้อกลับไปกินที่รีสอร์ท
และก็นอนหลับสบาย

เช้าวันถัดมา ท้าดาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!
ด้วยความที่ตื่นสายทั้งคู่ อดไปดูพระอาทิตย์ เลยตรงมาทานอาหารเช้าที่รีสอร์ท
อาหารเช้าเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ breakfast เหมือนโรงแรม หรือ รีสอร์ทอื่นๆทั่วไป
และก็ตัดสินใจออกไปเก็บหาดอีก เลยได้ไปพบหาดที่ดีต่อใจ รวมถึงได้ไปจุดชมวิวด้วย
ในทุกหาดที่ได้ไปมา เราชอบ "หาดหัวโขด" ที่สุด เนื่องจากสงบ บรรยากาศดี (อาจเพราะไปตอนสายๆของอีกวัน) เลยได้ชักภาพกันหลายภาพที่นี่

สุดท้ายกลับมาคืนรถหน้ารีสอร์ทและเช็คเอาท์ที่รีสอร์ท รับเงินค่ามัดจำคืน ตรวจเช็คอะไรเสร็จ
ก็ให้รถทางรีสอร์ทไปส่งที่ท่าเรือ ประมาณ 11.00 น. และแวะทานข้าวที่ครัวชลิตาที่เดิม (แหม๋ ก็มันอร่อย เลยติดใจ)
และก็ลงเรือ คือตอนแรกก็ไม่ยอมเดินไป เพราะเห็นเวลา 12.00 น. ก็คิดว่า กว่าเรือจะมา กว่าจะได้ทยอยลงเรือ
แต่เปล่าเลย 12.00 น. นั่นคือเวลาที่เรือสตาร์ทเครื่องยนต์ พร้อมออกเดินทางเลย
ค่าเรือก็ 30 บาทเหมือนเดิม และมาถึงท่าเรือแหลมบาลีฮาย ในเวลา 12.40 น.

จากนั้นก็เดินถามทางว่าจะไปสนามบินอู่ตะเภาอย่างไร
ได้ความว่า รถ taxi เหมาคันละ 1000 บาท อีกทางคือ รถตู้ คนละ 250 บาท
แต่จะต้องนั่งสองแถวไปลงที่เซ็นทรัล เฟสติวัล พัทยา บีช ค่ารถก็ 30 บาท
มาถึงเซ็นทรัล เฟสติวัล พัทยา ก็ประมาณ 13.30 น.

เลยเดินไปหารถตู้ ไอเราก็เข้าใจว่า มีรถตู้แบบที่ขนส่ง แต่ที่จริงเป็นรถตู้ของแอร์เอเชีย
คือไม่ได้ซื้อไว้ในตอนจองตั๋วก็สามารถมาจ่ายบนรถได้ ค่ารถตู้ก็ 250 บาท จ้า
รถตู้จะอยู่ประตูทาง shop cps ออกประตูมาทางนั้นก็จะเจอเลยจ้า
ตารางที่รถจะออกก็ตามนี้เลย
เวลาที่เดินทางจากคิวรถตู้ไปสนามบินอู่ตะเภา 1 ชั่วโมง 20 นาที
ถือเป็นอันสิ้นสุดการเดินทางงงง จบทริป เย้เย้

โดยรวมแล้ว ประทับใจตรงที่ พวกเราหลงกันในเกาะล้าน
เรารู้สึกว่า การที่หลง ไม่รู้ทิศทาง เปิดกูเกิ้ลแมพเอา มันสนุกอะ คือเอาจริงๆ เกาะมันก็เวียนอยู่แค่นั้น
ชอบบรรยากาศที่ เราหลง อีกหลายๆคันก็หลง บางทีก็ขี่ตามๆกันมา เพราะคิดว่าทางนี้มันถูก
บางทีก็เจอทางโดยที่ไม่ทันได้รู้ตัว สนุกจัง ชอบบบบบบบบบบบบบบ หัวใจ

ขอบคุณโชคที่คอยช่วยเราเสมอ ขอบคุณทุกคนที่พบเจอและช่วยเหลือไขข้อสงสัย
และขอบคุณคนร่วมทางที่ทำให้ทริปธรรมดาๆมันดีขึ้นมา
เราแนะนำนะ ไปกันหลายๆคนก็สนุก ไปแบบคู่รักยิ่งดี ง่อววววววววววววววววววว


สรุปค่าใช้จ่ายสำหรับเกาะล้าน 2 วัน 1 คืน (คนละ)
ค่ารถตู้จากขนส่งเอกมัย 150 บาท
ค่าเรือไปเกาะล้าน(ท่าหน้าบ้าน) 30 บาท
ค่าอาหารมื้อแรกที่ถึงเกาะล้าน (เที่ยง)  175 บาท
ค่าที่พัก 475 บาท
ค่าเช่ามอเตอร์ไซด์ 150 บาท
ค่าอาหารมื้อเย็น (ครัวเฉลียงลม) 355 บาท
ค่าขนมมื้อดึก 100 บาท
ค่าอาหารมื้อเที่ยง (ก่อนกลับ) 105 บาท
ค่าเรือจากเกาะล้าน(ท่าหน้าบ้าน)ไปพัทยา 30 บาท
ค่ารถสองแถวไปเซ็นทรัลเฟส 30 บาท
ค่ารถตู้ไปสนามบินอู่ตะเภา 250 บาท
>>>รวมเป็นค่าเสียหายทั้งหมด 1,850 บาท/คน นะจ๊ะ<<<


และนี่ก็เป็นรีวิวการไปเที่ยวเกาะล้านของพวกเราสองคน
หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยนะค้า

วันนี้หมดเวลา บ๊ายบายไปก่อนนนนน บ๊ายบายเกาะล้าน
เกาะที่หลง ไม่ใช่หลงธรรมดานะ หลงทางนี่แหละ
แต่เราชอบนะ ก่อนรักก็ต้องหลงกันก่อน คริคริ

ขอบพระคุณมากค่ะ ไซบีเรียนฮัสกี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น