ที่เกาะสมุยมันมีอะไร ที่ทำให้คุณนั้นต้องติดใจ ที่ทำให้คุณนั้นต้องอยากไปซ้ำ.... ~ เที่ยว แบบสบายกระเป๋า

กดติดตามการเที่ยวของเรา

ที่เกาะสมุยมันมีอะไร ที่ทำให้คุณนั้นต้องติดใจ ที่ทำให้คุณนั้นต้องอยากไปซ้ำ....

ที่ทำให้คุณต้องอยากไป...ซ้ำ...
เพราะ ไปครั้งแรก โครตเหนื่อยเลย

นี้คือภาพการไปครั้งแรก

ผมกับแฟนไปเกาะสมุยครั้งนี้ เป็นครั้งที่สอง
ไปครั้งแรก นั่งแอร์เอเชีย ลงเครื่อง ต่อรถ ต่อเรือ ต่อรถ ถึงโรงแรม....สลบ!!!
ไปแค่หินตาหินยาย เอาเท้าจุ่มน้ำทะเลที่ละไม ซื้อกาละแม แล้วก็กลับ

คราวนี้แฟนเลยขอแก้มือ เพื่อให้รู้ว่า ที่เกาะสมุยมันมีอะไร
ไปเที่ยวครั้งนี้เลย ขอ 4 วัน 3 คืน 2 โรงแรม ด้วยเงินส่วนตัวทั้งหมดครับ

ตั้งกระทู้ยาวแบบนี้ เป็นครั้งแรกใน พันทิปใหม่
ตอนแรกเลือก กระทู้รีวิว แต่อ่านเนื้อหา แล้วไม่รู้ใส่อะไร เลยเปลี่ยนมาเป็นกระทู้สนทนาแทน

เริ่มกันเลยดีกว่า

การเดินทางรอบนี้เราไม่เหมือนก่อน คราวเราเริ่มที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดย Bangkok Ariways

ออนไลน์เช็คอินมาแล้ว ก็มาโหลดกระเป๋าเลยครับ
ไม่ได้นั่ง Blue Ribbon นะครับ แฟนบอกธรรมดาก็พอ แต่ จนท.ให้มาโหลดกระเป๋าที่ช่องนี้แทน

พอเสร็จเรียบร้อย เราก็มุ่งหน้าสู่ห้องรับรองของสายการบินกันทันที

ซึ่งห้องรับรองนี้ อยู่ตรงข้าม gate 3 ทีเราจะไปขึ้นเครื่องพอดี

เกือบได้เวลาขึ้นเครื่องแล้ว เราเลยมานั่งรอที่ Gate แทน

เมื่อเข้ามาใน Gate เราก็มองหาเครื่องบิน

เครื่องไม่มีเทียบงวง!!!!

เพิ่งขึ้น บางกอกแอร์เวย์ ครั้งแรก ไม่นึกว่าต้องต่อบัสไปเครื่องด้วย

ไปขึ้นรถ ขึ้นรถ

สักภาพก่อนเข้า

ปกติก่อนเข้าเครื่อง ผมจะลูบที่ผิวหรือแตะ ตรงประตู แล้วคิดในใจว่า ให้เครื่องนี้เดินทางปลอดภัย

ยังอิ่มๆจากห้องรับรองอยู่ เจ้านี้ก็มาครับ

ครู่เดียว มองนอกหน้าต่าง

เครื่องเริ่มลดระดับ อย่างหงุดหงิด เพราะเขาฉาย mr.bean ยังไม่จบตอน อารมณ์ค้าง!!!

เอาของเก็บในรถแล้ว กำลังจะออกรถ
แฟนทักว่าจะไม่เดินเที่ยวสนามบินหน่อยหรือ
อ้าว!!! ลืมขอรับ

อาคารผู้โดยสารขาเข้า

หอนาฬิกา ที่มีป้ายเมืองต่างๆว่าไปทางไหน

น่าจะขึ้นไปได้ เห็น Runway เต็มๆตอนเครื่องขึ้นลง คงสวยมาก

ร้านค้าต่างๆยังไม่เปิดดีนัก คนแทบไม่มี

เดินวนครบ
แล้วก็ออกเดินทางกันเลย
คงเดากันไม่ยาก สถานที่แรกคือ ไปไหว้พระที่วัดพระใหญ่

ด้านบน กำลังมีการปรับปรุงเพื่อขยาย และซ่อมแซมบางส่วน

แต่เราก็ขึ้นไปไหว้พระได้ครับ

มีเตาไมโครเวฟพร้อม

คุกกี้ กาแฟ ฟรี

คุกกี้ พนักงานบอกว่าไม่ค่อยมีคนทาน สงสัยจะไม่อร่อย ผมลองทานก็ปกติ

ถัดมาก็มี เตา แก้วกาแฟ กาไฟฟ้า

เราสามารถไปซื้อของสดมาทำอาหารกินได้ครับ โดยไปแจ้งขออุปกรณ์ครัวเพิ่ม

ซิงค์ล้างจาน แอร์ตัวใหญ่

ด้านซ้ายมือ คือ ตู้เย็น ตั้งหลบอยู่ในช่อง

น้ำดื่ม ขวดแก้ว ฟรี วันละ 4 ขวด

เสร็จจากครัวแล้ว ด้านขวาของทางเข้า เป็นห้องนั่งเล่น กับโต๊ะอาหารครับ

มาลัยกล้วยไม้บนโต๊ะนั้น คือที่ได้ตอนเช็คอิน มีชุดจานวางพร้อมอยู่

พร้อมผลไม้

ผมทานกล้วย ไป 2 ลูก กับเงาะ 3 ลูก อีกวันเอากล้วยมาเติมให้ แต่ไม่เติมเงาะ

คาดว่านี้คือสาเหตุที่ คุกกี็ไม่มีคนทาน

บริเวณปลายเตียงนอนครับ

ไฟฉาย เห็นแล้วนึกถึงข่าวไฟดับที่เกาะสมุย และไฟดับภาคใต้ที่ผ่านมาเลย

พอเลื่อนบานตู้ใต้ทีวีมาอีกทาง ก็จะพบตู้เซฟ

ถัดมาคือตู้เสื้อผ้า

ลืมรูป

คราวนี้เปิดประตูห้องน้ำ

ประตูตรงหน้า คือทะลุไปห้องนั่งเล่นได้ครับ

เข้ามาในห้องน้ำ ด้านขวามีถังขยะไม้

ถังขยะไม้ มีวางอยู่ทั่วห้องครับ แต่ผมว่าใช้งานยากไปหน่อย เพราะฝาถังเป็นไม้ท่อนแกะ เจาะรู ซึ่งมีน้ำหนักพอควร

ทางเข้าห้องอาบน้ำ

เป็นอ่างอาบน้ำ พร้อมฝักบัว
จะอาบน้ำต้องเดินขึ้นแล้ว ลงไปในอ่าง ตรงนี้ผมว่ามันลำบาก

ชุดเพิ่มบรรยากาศขณะอาบน้ำ

ห้องน้ำ ด้านหลังเป็นระแนงระบายอากาศ ดูแล้วคนข้างนอกไม่เห็นเราแน่นอนครับ

อีกมุมนึง เป็นฝักบัว

อย่างที่บอก ถ้าจะอาบน้ำต้องเดินขึ้น แล้วก้าวลงไปในอ่าง

ด้านในที่เป็นหินกรวด เป็นตกแต่งเฉยๆ คาดว่าตอนแรกคงออกแบบให้เป็นน้ำล้นจากบนผนังลงมา
ปล.จุดนี้ผมลืมถ่ายภาพมุมกว้างของห้องมาครับ เพราะตั้งใจจะไปเอาอีกกล้องมาถ่าย แต่ดันลืม

เสร็จแล้วก็เดินทะลุประตูที่ออกส่วนนั่งเล่นมา
เปิดทีวีสักหน่อย

เราสามารถติดต่อขอ แผ่นหนังมาเปิดดูได้นะครับ
แต่แฟนผมเตรียมมา ช่วงนี้เราสองคนดู เมืองมายา !!! ละครเก่า แต่มันมากๆ เคยดูตอนเด็กๆ

มาดูกันต่อ ผ่านนั่งเล่นไป ตรงออกระเบียง
เป็นวิวเขาและสระว่ายน้ำ มีที่นั่งสำหรับพักผ่อน

ภาพสุดท้ายภายในห้อง เป็นมุมกว้าง

เด๋วเราไปกินข้าวเย็นกัน

แต่ปัจจุบัน ขอไปกินข้าวกลางวันก่อน

ขอบคุณครับ

บริเวณทางเดินครับ

บริเวณห้องอาหารครับ

พนักงานที่นี่ ดีมากครับ ไม่ว่าเราจะเจอพนักงานที่ไหน คนไหน ทักทาย กล่าวสวัสดีตลอด
และยังชวนคุย เป็นการชวนคุยที่แบบว่ารู้ได้เลยว่าเขาฟังเราจริง มีการเสนอแนะ ให้ข้อมูลต่างๆ
ไม่ใช่ ทักทายเฉยๆ

แล้วก็ขอมาถ่ายหน้าที่พักสักหน่อย

อีกสักภาพ

เราสองคนตั้งใจว่าจะไปถนนคนเดินหน้าทอน ตามที่ค้นเจอในเน็ท
แต่พอไปถึง หน้าทอน สอบถามจากคนแถวนั้น ปรากฏว่ายกเลิกไปแล้ว วันนี้มีถนนคนเดินที่ อ่างเก็บน้ำ

ขับรถกลับ

เลยแวะกินข้าวเย็นกันซะเลย

สั่งอาหารเสร็จ สิ่งที่รับอันแรกคือ

งงกับแฟนว่า คืออะไร เราสั่งหรือเปล่า สุดท้ายคือฟรี
อร่อยดีครับ เป็นน้ำพริก ทาบนกะลา แล้วเอาไปเผา

อาหารหลักทยอยออกมา

บรรยากาศของร้านครับ

ชายหาดพระอาทิตย์ตก

คนเริ่มมาเยอะ บรรยากาศกำลังดีเลย

แล้วก็มีผลไม้มาเสริฟ ฟรีอีกแล้ว

คนที่ร้านก็อัธยาศัยดี มีมาถามตลอด เป็นร้านดูบ้านๆ แต่ใช้ได้เลยครับ
ค่าอาหารเย็นนี้

ปูผัดพริกไทยดำ คิดราคาผิดนะครับ ราคาจริง 140 บาท แฟนผมทัก เขาไปเช็ค
ปรากฏว่าลงราคาผิด ไปลงราคาอีกเมนูที่อยู่บรรทัดใกล้ๆกัน ขอโทษกันยกใหญ่เลย

ทานเสร็จ ก็เข้าที่พักเลย ไม่ได้ไปถนนคนเดินต่อ เพราะพรุ่งนี้ เราจะออกทะเลกัน

จอดรถเสร็จ ก็เดินผ่าน รปภ. เขาก็ทักทาย ถามว่าไปทานข้าวที่ไหนกัน ไปเที่ยวไหนกันมาบ้าง

ทางเข้าไปล็อปบี้ครับ แวะไปเอาแฟกซ์ ที่จองทัวร์ออกทะเล ของพรุ่งนี้ไว้

เจอพนักงานนั่งคุยกันเป็นกลุ่มๆอยู่ พอเห็น ลุกขึ้นกันหมด พร้อมกล่าวทักทาย
แล้วก็หลบไปที่อื่น

เป็นที่พักที่เงียบสงบมาก

คืนนี้นั่งดูละคร ก่อนเข้านอน

จบวันแรกที่เกาะสมุย

เริ่มต้นวันที่สอง ต้องตื่นเช้าอีกแล้ว
เพื่อให้ทันรถจะมารับ

ยังพอมีเวลา เลยทานอาหารเช้ากันสักหน่อย

มุมเครื่องดื่ม

เดินๆดู นึกในใจว่าทำไมมีน้อยจัง

เราก็รินน้ำยกน้ำมาวางบนโต๊ะ

สักพัก พนักงานก็เดินเข้ามาถาม รายการที่จะสั่ง
ผมกับแฟนก็สั่งไปคนละชุด

ทานไปจานเดียว เพราะกลัวเมาเรือ
เสร็จแล้วรถก็ยังไม่มาครับ

ไม่มีแขกคนอื่นเลย

มีโต๊ะเราเท่านั้น

สักพัก รถก็มารับ

นำแฟกซ์ที่รับจากเมื่อวาน ให้คนขับตรวจสอบ แล้วก็ขึ้นรถกันเลย

แวะรับลูกทัวร์อีกโรงแรม

มาถึงท่าเรือ ตรงหน้าทอน ก็ยื่นแฟกซ์ที่ได้ แล้วจ่ายส่วนต่างเพิ่ม จากที่โอนมัดจำไว้เมื่อวาน

บนเรือมีขนม น้ำดื่ม กาแฟไว้บริการ ฟรี

หาที่นั่งจับจอง เรือมี 3 ชั้น ครับ ชั้นล่าง ชั้นสอง และดาดฟ้าอาบแดด

ไกด์ของเรา วันนี้ คุณอ้อม แนะนำข้อมูลต่างๆ กำหนดการคร่าวๆ

ลูกทัวร์ เป็นต่างชาติ เกือบหมด คนไทยไม่ถึง 10 คน

แล้วก็นั่งรอ ถ่ายอุปกรณสักหน่อย

กล้องที่เอามาสมุย ครั้งนี้มี 3 ตัวครับ
Nikon D90
Sony NEX-C3
Nikon AW100 กล้องกันน้ำ

โดยออกทะเลนี้ เอามาสองตัว คือ D90 กับ AW100

นั่งเรือเบื่อๆ ผมก็ถ่ายรูปไปเรื่อย
เกาะยังอยู่อีกไกล

มาแนะนำ และชวนคุยครับ

นั่งดูทะเลเพลิน ไกด์ก็ประกาศแนะนำ ให้ออกมาถ่ายรูป

ตอบกลับ

ผู้ช่วยไกด์(เสื้อแดง) ก็แนะนำว่าให้ไปถ่ายบนดาดฟ้า คนน้อย

แถมยังช่วยถ่ายรูปผมคู่กับแฟนให้ด้วย แบบว่า อย่างมืออาชีพ ถ่ายปั๊ปๆๆ เปลี่ยนมุมให้ บอกเราไปทางโน้นทางนี้

สักพักเรือวิ่งผ่านเกาะ เราก็นึกว่าถึงแล้ว

เราไปอีกเกาะนึงครับ คือเกาะนี้

เกาะวัวตาหลับ ที่เรากำลังจะไป

จุดชมวิวสูงที่สุดบนเกาะนี้ ช่างน่าสัมผัสยิ่งนัก

(มองเห็นกันไหม)

มาถึงแล้ว ก็ต่อลงเรือหางยาวกันเลย

ต้องใส่ชูชีพไว้ด้วย ลงที่ละคน

ปริ่มๆน้ำ เสียวดีจัง

ขึ้นโป๊ะ

หนึ่งในหมู่เกาะอุทยานแห่งชาติ

เข้าไปฟังไกด์นัดแนะอีกรอบ ใครจะขึ้นจุดชมวิว หรือเล่นน้ำก็ตามสบาย

เราเลือกขึ้นจุดชมวิวครับ เอาของหรือสัมภาระไปฝากไว้กับ จนท.อุทยานได้ มีจุดรับฝาก
(ไม่เสียค่าบริการ แต่มีกล่องให้ใส่ทิป ช่วยเหลือ จนท.ครับ)
แล้วก็ตาม ผู้ช่วยไกด์ไปเลย เขาจะขึ้นนำเราไป 1 คน

ลุยๆๆ

แค่แป๊ปเดียว เราก็ถึงแล้ววววว

เป้าหมายของเรา จุดชมวิว 100 ม. อิอิ

เนื่องจากดูสภาพเส้นทาง ที่คนอื่นรีวิวแล้ว สรุปได้ว่า เราจะหยุดแค่ 100 ม.
ส่วนคนอื่นไปต่อ เพราะเขาจะพาไปจุดสูงที่สุดเลยทีเดียว

นั่งชมบรรยากาศกันไป ร้อนโฮกๆๆ

อิ่มกับบรรยากาศแล้ว ก็ลงมาข้างล่าง
มาดูที่ทำการอุทยาน

อิ่มบรรยากาศแล้ว ก็ต้องอิ่มท้อง ช่วยเหลืออุทยาน กับมาม่า และโค๊ก

เจ้าของพื้นที่ หลบแดดอยู่ไกลๆ

แล้วก็ออกทะเล

บางส่วนก็ไม่ขึ้นไปจุดชมวิว

น้ำใสมาก

แดดร้อนมาก ขอหลบแดดหน่อย ออกทะเล ลืมครีมกันแดดไว้ที่โรงแรม

นั่งดูนักท่องเที่ยว

สักพัก ไกด์อ้อม ก็เข้ามาทักและนั่งคุยด้วย พูดถึงนักท่องเที่ยว
มาสมุย ผมกับแฟนรู้สึกว่านี้แหละเมืองไทย ผมได้รับการต้อนรับที่ถือได้ว่าดีมากๆจากคนที่นี้ ต่างจากไปที่อื่น(เสม็ด แต่ยังไปมันทุกปี)
ตัวไกด์ก็บอกว่า พวกนั้นเค้ามองผิด คนไทยจะเที่ยวตอนมีเงิน แต่ฝรั่งเที่ยวเพราะหนีหนาว ไปมองที่ค่าเงินแลกเปลี่ยนมากกว่า
ไปมองที่ิเงินทิปเยอะของฝรั่งๆ ซึ่งจริงๆแล้วถ้าบริการคนไทยดีๆ ประทับใจ เขาก็ให้พอๆกับฝรั่ง เพราะ คนไทยเที่ยวตอนมีเงิน (หัวเราะกันไป)

เมืองไทยนี้ สวยๆเยอะมาก แต่เราเกิดที่นี่ เราจึงมองข้ามจุดนี้ไป

ชื่อเกาะวัวตาหลับ ไกด์บอกว่าถ้ามองอีกด้าน จะเหมือนวัวหมอบหลับตาอยู่

กลุ่มที่ขึ้นไปจุดชมวิว เริ่มทยอยลงมา นั่งพักกัน แล้วก็กลับขึ้นเรือครับ

มุมนี้ก็คล้ายวัวนะ