ที่เที่ยวหน้าหนาว 2565 โอบกอดลมหนาวที่น่าตามไปเช็กอิน

 

ที่เที่ยวหน้าหนาว 2565 ออกเดินทางเก็บเกี่ยวสายลมหนาว หนึ่งในช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว พบความสุขง่าย ๆ ด้วยตัวของคุณเอง

          หน้าหนาวที่บรรยากาศดี ๆ หลายคนน่าจะกำลังลิสต์ที่เที่ยวหน้าหนาวไว้ในหัวยาวเป็นหางว่าวอยู่แน่ ๆ และนาน ๆ ทีเสื้อหนาวในตู้จะได้เอาออกมาใช้งานสักครั้ง ก็อดตื่นเต้นไม่ได้เลยใช่ไหมล่ะ ? ถ้าอย่างนั้นแล้ว เรามีที่เที่ยวหน้าหนาว 2565 มาแนะนำ เอาไว้เป็นไอเดียเผื่อใครที่ยังคิดไม่ออกว่าจะควงเพื่อน ครอบครัว หรือคนรู้ใจไปเที่ยว จะได้เตรียมตัววางแผนกันได้ทันกาล

1. หมู่บ้านนอแล จังหวัดเชียงใหม่

          ดินแดนแห่งชายขอบเขตประเทศไทยใกล้ชายแดนไทย-เมียนมา ซึ่งถ้ามองไปทางฝั่งเมียนมาจะเห็นกองกำลังตั้งอยู่บนเนินเขาอย่างชัดเจน โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเที่ยวชมและชื่นชมวิวทิวทัศน์บริเวณลานจอดเฮลิคอปเตอร์ รวมถึงยังพักค้างคืนแบบแคมปิ้ง (บริเวณสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง) ได้อีกด้วย ช่วงหน้าหนาวที่นี่มักได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยว เดินทางมาชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกดิน รวมถึงทะเลหมอกสวย ๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็อาจต้องเตรียมตัวเตรียมใจกับเส้นทางขับรถอยู่สักเล็กน้อย เพราะค่อนข้างสมบุกสมบันอยู่เสียหน่อย แต่เมื่อมาถึงแล้วรับรองว่า…คุ้มค่าแน่นอน

ที่อยู่ : อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่

2. ดอยค้ำฟ้า จังหวัดเชียงใหม่

          “ดอยค้ำฟ้า” หรือ “กิ่วใจหาย” แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ตั้งอยู่ที่หน่วยจัดการต้นน้ำแม่งาย เหมาะสำหรับผู้มีใจรักธรรมชาติ มานอนกางเต็นท์ เติมเต็มชั่วโมงฟิน ๆ กับทิวทัศน์สวยล้อมรอบ แต่การขึ้นไปเที่ยวนักท่องเที่ยวจำเป็นที่จะต้องโทรศัพท์แจ้งหัวหน้าหน่วยจัดการต้นน้ำแม่งายก่อน (โทร. 0-5327-4431) ด้วยเพราะถนนหนทางค่อนข้างแคบและชันเป็นบางช่วง จำเป็นต้องอาศัยผู้ชำนาญ รวมถึงด้านบนไม่มีที่จอดรถรองรับได้มากนัก จึงจำเป็นที่ต้องอาศัยรถของเจ้าหน้าที่ขึ้นมา ไฮไลต์สำคัญคือ การชื่นชมทะเลหมอก และมีเบื้องหลังเป็นยอดดอยหลวงเชียงดาว ลองได้มาเห็นของจริงเป็นต้องถูกสะกดด้วยกันทุกคน (ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์)

ที่อยู่ : ตำบลเมืองแหง อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่

3. สวนสนบ่อแก้ว จังหวัดเชียงใหม่

          สร้างโมเมนต์ชั่วโมงแห่งความสุขในช่วงหน้าหนาว กับสวนสนยาวสูงชะลูดและวางเรียงตัวอย่างเป็นระเบียบ โดยสวนสนแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสำรวจวัตถุดิบเพื่อทำเยื่อกระดาษและเป็นแปลงทดลองปลูกพืชอื่น ๆ ซึ่งหน้าหนาวที่นี่จะสวยงามมากเป็นพิเศษ เพราะจะมีไอหมอกลอยปกคลุมป่าสน ให้อารมณ์เหมือนกับว่าไปเที่ยวต่างประเทศเลยทีเดียว เหมาะสำหรับเป็นอีกหนึ่งจุดแวะพักเช็กอินของเส้นทางสายฮอด-แม่สะเรียง รับรองว่าได้รูปสวยติดมือกลับบ้านเพียบ แต่ต่อให้ไม่มาเที่ยวช่วงหน้าหนาว ก็สามารถเดินทางมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

ที่อยู่ : ตำบลบ่อหลวง อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่

4. เที่ยวไร่ชา จังหวัดเชียงใหม่

          หน้าหนาวทั้งทีลองปล่อยใจไปกับการเที่ยวทุ่งชาสวย ๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ ก็ได้บรรยากาศดีไม่น้อยเลย นอกจากเราจะได้เห็นแหล่งปลูกชาเพื่อส่งขายไปยังที่ต่าง ๆ แล้ว ไร่ชาที่ไหนวิวสวย วิวปัง ก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตไปในตัวอีกด้วย เพราะเราจะได้เห็นวิวของไร่ชาที่โค้งวนเป็นขั้นบันไดไปตามไหล่เขา บางแห่งยังมีสายหมอกในยามเช้ามาทักทาย ไร่ชาในเชียงใหม่ที่น่าเช็กอิน ได้แก่ ไร่ชา 2000 เชียงใหม่, ไร่ชาลุงเดช และไร่ชาระมิงค์ เป็นต้น

5. ป่าสนวัดจันทร์ จังหวัดเชียงใหม่

          "ป่าสนวัดจันทร์" หรือ “ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์” ตั้งอยู่ที่อำเภอกัลยาณิวัฒนา ความน่าสนใจของที่นี่คือ ป่าสนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และเมื่อใดก็ตามที่หน้าหนาวเวียนมาบรรจบอีกครั้ง ที่นี่จะทำให้คุณหลงเสน่ห์ความสวยงามของสายหมอกที่ลอยอ้อยอิ่งปกคลุมทั่วพื้นที่ มองไปมองมาให้อารมณ์เหมือนว่าอยู่ในดินแดนแห่งความฝัน รายล้อมด้วยความเงียบสงบ ไม่มีสิ่งใดมากวนใจให้วุ่นวาย และไม่แน่ว่าคุณอาจจะได้เห็นใบเมเปิลสีแดงสด ประดับประดาให้ที่นี่สวยกว่าเดิมเป็นสองเท่า

ที่อยู่ : ตำบลบ้านจันทร์ กม.40 หมู่บ้านห้วยอ้อ อำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่

6. ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ จังหวัดน่าน

          ตั้งอยู่ที่อำเภอปัว หนึ่งในอำเภอน่าเที่ยวชื่อดังของจังหวัดน่าน นอกเหนือจากการไล่เช็กอินที่เที่ยวตามจุดต่าง ๆ ของอำเภอปัวแล้ว พลาดไม่ได้กับการเช็กอินความชิลกันต่อที่ “ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ” เป็นร้านกาแฟของร้านลำดวนผ้าทอ ความดีงามของที่นี่เห็นจะอยู่ที่บรรยากาศความชิล ให้ฟีลเหมือนว่ามานั่งเล่นอยู่ที่กระท่อมปลายนา มีมุมต่าง ๆ รอให้นักท่องเที่ยวแวะเวียนมาถ่ายรูปสวย ๆ มีสะพานไม้ไผ่เอาไว้ให้เดินเล่นเพลิน ๆ รวมถึงยังได้ซึมซับภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมไทลื้อที่มีเสน่ห์และเอกลักษณ์อีกด้วย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก โฮมสเตย์กาแฟบ้านไทลื้อ หรือโทรศัพท์ 08-9264-6058

ที่อยู่ : หมู่ 4 ตำบลศิลาแลง อำเภอปัว จังหวัดน่าน

7. ดอยผาฮี้ จังหวัดเชียงราย

          ตั้งอยู่ในอำเภอแม่สาย ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งปลูกกาแฟสำคัญของเชียงราย กาแฟที่นี่อัดแน่นด้วยคุณภาพ พร้อมส่งขายตามร้านกาแฟต่าง ๆ ทั่วประเทศ ช่วงหลังมานี้ดอยผาฮี้เริ่มเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากขึ้น ด้วยเพราะความสวยงามอันชวนให้หลงใหลของวิวทิวทัศน์ ล้อมรอบด้วยทะเลภูเขา ทะเลหมอก และสายลมเย็น ๆ มาพร้อมกับกิจกรรมสุดฮิต อย่างการนั่งห้อยขาจิบกาแฟชิล ๆ ชมวิวเก๋ ๆ รวมถึงยังพักผ่อนนอนสบายกับโฮมสเตย์น่ารัก ๆ สัมผัสเสน่ห์ที่นี่กันให้เต็มที่ไปข้างหนึ่งเลย

ที่อยู่ : หมู่ที่ 10 ตำบลโป่งงาม อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

8. ม่อนกิ่วลม จังหวัดตาก

          หนึ่งในจุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยงามในอุทยานแห่งชาติแม่เมย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูหนาว คุณจะได้เจอกับทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นอย่างงดงามสมคำร่ำลือ ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมมานอนกางเต็นท์ เพื่อดื่มด่ำวิวธรรมชาติของที่นี่เป็นจำนวนมาก รวมถึงภายในอุทยานยังมีจุดท่องเที่ยวต่าง ๆ ให้ได้แวะชม อย่างเส้นทางท่องเที่ยวธรรมชาติสวย ๆ ซึ่งนักท่องเที่ยวจำเป็นต้องติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยาน เพื่อนำทางและดูแลความปลอดภัย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติแม่เมย - Mae Moei National Park หรือโทรศัพท์ 06-1352-3703

ที่อยู่ : ตำบลแม่สอง อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก

9. วนอุทยานภูลังกา จังหวัดพะเยา

          นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความน่าสนใจ พลาดไม่ได้กับการเยือน “ภูเขาเทวดา” ยอดดอยสูงในเทือกเขาสันปันน้ำไทย-ลาว ที่นี่เป็นจุดชมวิวทะเลหมอก วิวพระอาทิตย์ขึ้นและตกดิน รวมถึงดอกไม้ป่าสวย ๆ มากมาย นอกจากนี้ยังมีจุดเช็กอินดอยสวย ๆ อีกหลายจุด เช่น “ดอยภูลังกา” “ดอยภูนม” และ “ดอยหัวลิง” เป็นต้น แต่ละจุดล้วนมีความสวยงาม พร้อมให้คุณจูงมือคนที่รักไปดื่มด่ำความสุขท้าลมหนาวกันแบบหนำใจ

ที่อยู่ : ตำบลผาช้างน้อย อำเภอปง จังหวัดพะเยา

10. เกาะหมาก จังหวัดตราด

          ใช่ว่าหน้าหนาวจะเที่ยวทะเลไม่ได้ เห็นทีว่าจะต้องเป็นข้อยกเว้นสำหรับเกาะหมาก ซึ่งสามารถเดินทางมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ทั้งยังเป็นเกาะมากเสน่ห์ เหมาะกับใครก็ตามที่ชอบความเงียบสงบ ด้วยเพราะที่นี่ไม่มีสถานบันเทิงมากนัก น้ำทะเลใสแจ๋ว สามารถดำน้ำชมปะการังได้แบบจุใจ ใครที่จะไปแนะนำให้ไปแบบค้างคืน จะได้ชมวิวทะเลตอนกลางคืนและมีเวลาเที่ยวเกาะใกล้ ๆ เช่น เกาะยักษ์ใหญ่, เกาะยักษ์เล็ก และเกาะมะปริง เป็นต้น

ที่อยู่ : ตำบลเกาะหมาก อำเภอเกาะกูด จังหวัดตราด

11. ภูฝอยลม จังหวัดอุดรธานี

          อยู่ในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติพันดอน-ปะโค บนเทือกเขาภูพานน้อย สภาพอากาศที่นี่โดยรวมเย็นสบายเกือบจะตลอดทั้งปี ปัจจุบันมีการจัดตั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศเพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติและให้เป็นที่ทัศนศึกษาของประชาชน ประกอบด้วย สวนรวมพรรณไม้ 60 พรรษา มหาราชินี อุทยานโลกล้านปี มีหุ่นจำลองไดโนเสาร์ และพิพิธภัณฑ์แสดงซากสัตว์ดึกดำบรรพ์ และมีเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ซึ่งจะได้พบป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง ป่าเต็งรัง สลับป่าทุ่งหญ้า น้ำตกเล็ก ๆ และถ้ำ ถือว่าเป็นศูนย์ศึกษาธรรมชาติที่ดีและน่าเที่ยวที่สุดแห่งหนึ่งของไทย

ที่อยู่ : ตำบลทับกุง อำเภอหนองแสง จังหวัดอุดรธานี

12. ดอยตาปัง จังหวัดชุมพร

          หนึ่งในจุดชมวิวทะเลหมอกอันซีนแห่งแดนใต้ ตั้งอยู่บนดอย ม.7 ตำบลเขาทะลุ เอาจริง ๆ แล้วทะเลหมอกที่นี่สามารถชมได้ตลอดทั้งปี ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของแต่ละวัน แต่สมมติว่าวันนั้นไม่ได้เห็น อย่างน้อยเชื่อว่าคุณน่าจะประทับใจกับทิวทัศน์รอบข้างได้ไม่ยากเย็น ลองหลับตาจินตนาการว่าตื่นเช้ามาได้เห็นแสงอาทิตย์อ่อน ๆ กระทบเข้ากับหมอก รวมถึงบรรยากาศยามเย็นเมื่อพระอาทิตย์กำลังตกดิน บอกเลยว่าสวยงามและโรแมนติกเป็นที่สุด

ที่อยู่ : ตำบลเขาทะลุ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร

          เป็นยังไงบ้าง มีที่ไหนถูกใจบ้างหรือเปล่าเอ่ย ? เอาเป็นว่าหาเวลาแล้วปักหมุดสักที่ จากนั้นออกเดินทางไปท่องเที่ยวเมืองไทยกันดีกว่า

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : fca16.com, เฟซบุ๊ก โฮมสเตย์กาแฟบ้านไทลื้อ และ เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติแม่เมย - Mae Moei National Park